ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2)

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

เรอัล มาดริด (สเปน) – ยูเวนตุส (อิตาลี)
Real Madrid (Spain) – Juventus (Italy)

(นัดแรก เรอัล มาดริด ชนะ 3-0)
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1, เวลา : 01.45 น.

 

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

”ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เลกแรกบุกไปเอาชนะ ยูเวนตุส มาก่อนถึง 3-0 โดยได้ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิง 2 ประตู ก่อนจะได้ มาร์เซโล่ ทำประตูปิดท้าย โอกาสเข้ารอบสดใสทีเดียว

ผลงานในลา ลีกา ล่าสุด โรนัลโด้ ยิงประตูที่ 40 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ให้ทีมออกนำ แอต.มาดริด ก่อนที่จะโดน อองตวน กรีซมันน์ ยิงตีเสมอ 1-1 ในศึก ”เดร์บี้ มาดริเลนโญ่” รั้งเป็นอันดับ 4 ของตาราง

ข่าวร้ายของ ซีเนดีน ซีดาน ก็คือจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีม ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบโควตา

นอกจากนี้ นาโช่ เฟร์นานเดซ เซนเตอร์แบ็ก แบ็กอัพเบอร์หนึ่งของทีมมีอาการบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เกมนี้น่าจะได้เห็น เฆซุส บาเยโฆ่ กองหลังดาวรุ่งลงสนามเคียงข้าง ราฟาแอล วาราน

ดาวเตะตัวจริงที่ได้พักในเกมกับตราหมีอยาง กาเซมีโร่, โทนี่ โครส, อีสโก้ และ ลูก้า โมดริช เตรียมคืนสนามทั้งหมด เช่นเดียวกับ คาริม เบนเซม่า ที่จะประสานงานแดนหน้ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ฟาก ”ม้าลาย” ยูเวนตุส เกมที่แล้วแพ้คาบ้าน 0-3 โอกาสเข้ารอบริบหรี่ ขณะที่ผลงานในลีกยังยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ล่าสุดบุกถล่มทีมบ๊วยอยาง เบเนเวนโต้ 4-2 จากแฮตทริกของ เปาโล ดีบาล่า และอีกลูกจาก ดั๊กลาส คอสต้า

มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี เจอกับข่าวร้ายเมื่อ เปาโล ดีบาล่า กองหน้าตัวเก่งโดนไล่ออกจากสนามในเลกแรก เกมนี้ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ โรดรีโก้ เบนตานชูร์ กองกลางที่สะสมใบเหลืองครบโควตา

อย่างไรก็ตาม ยังพอมีข่าวดีที่ได้ตัว มิราเล็ม ปานิช ห้องเครื่องตัวเก่ง และ เมห์ดี้ เบนาเตีย กองหลังพ้นโทษแบนกลับมา

เบนาเตีย จะกลับมาเป็นคู่เซนเตอร์กับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ทันทีในวันที่ อันเดรีย บาร์ซายี่ มีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต

ปานิช จะกลับมาประสานงานแดนกลางกับ ซามี่ เคดิร่า ส่วนพื้นที่แดนหน้าใช้ มาริโอ มานด์ซูคิช ลงแทนที่ของ ดีบาล่า

แกนหลักที่ได้พักในเกมล่าสุดอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดั๊กลาส คอสต้า และ กอนซาโล่ อิกวาอิน เตรียมคืนทัพทั้งหมด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : เกย์ลอร์ นาวาส – ดานี่ การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เฆซุส บาเยโฆ่, มาร์เซโล่ – ลูก้า โมดริช, กาเซมีโร่, โทนี่ โครส – อีสโก้ – คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน

ยูเวนตุส (4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน – มัตเตีย เด ชีโย่, เมห์ดี้ เบนาเตีย, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ควัดโว่ อาซาโมอาห์ – ซามี่ เคดิร่า, มิราเล็ม ปานิช – ดั๊กลาส คอสต้า, มาริโอ มานด์ซูคิช, อเล็กซ์ ซานโดร – กอนซาโล่ อิกวาอิน

เทรนเนอร์ : มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอวิเลอร์ (อังกฤษ)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

– ราชันกำลังจะลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน โดยนี่จะเป็นหนที่ 21 ที่เจอกันของทั้งสองทีม ซึ่งครั้งที่ 19 นั้นเป็นการเจอกันตอนนัดชิงที่คาร์ดิฟฟ์ เมื่อ 3 มิถุนายน 2017 เรอัล มาดริด อัดยูเว่ 4-1 ได้แชมป์สมัยที่ 12 ทำลายอาถรรพ์เป็นแชมป์เก่าที่ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ และตอนนี้ลุ้นแชมป์สมัยสามติดต่อกัน

– คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงสองเม็ดในเกมแรกที่ชนะ 3-0 ถือว่ายุติสถิติ 27 เกม หรือ 5 ปี ที่ยูเว่ไม่แพ้ใครในบ้านเกมยุโรปด้วย

– ยูเวนตุสชนะในหนสุดท้ายที่ต้องเตะแบบสองนัดเมื่อเจอกับมาดริด ในรอบรองปี 2014/15

– 20 หนที่เจอกันก่อนหน้านี้ในยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่งตอนนี้ราชันนะไป 10, ยูเว่ ชนะ 8, เสมอ 2, มาดริดยิงได้ 25, ยูเว่ยิงได้ 22

– โรนัลโด้ยิงได้ตลอดทั้ง 6 เกมให้กับเรอัล มาดริด เมื่อเจอกับยูเวนตุส รวมแล้ว 9 เกม ที่สำคัญตอนนี้เขายิงในแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำสถิติ 10 นัดติดต่อกัน

– มาดริดชนะ 5 จาก 8 เกมในบ้านเมื่อเจอกับยูเว่ โดยเสมอ 1 และแพ้ 2

– สถิติของมาดริดในยูโรเปี้ยน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศเล่นรอบนี้ 35 หนแล้ว มากกว่าทีมไหน โดยชนะ 28 แพ้แค่ 6

– มาดริดถูกโฉลกชนะทั้ง 6 เกมเมื่อเจอกับสโมสรจากอิตาลี ทั้งการพบกับยูเว่ รวมถึงนาโปลีด้วย แถมพวกเขาชนะ 34 จาก 40 เกมหลังในแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บ้านตัวเอง แพ้แค่หนเดียวคือ 3-4 ต่อชาลเก้ ในรอบ 16 ทีมนัดสอง ปี 2014/15 แต่ก็ยังเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4

– มาดริดแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 32 หนถ้วยยุโรปก่อนหน้านี้ที่พวกเขาชนะในเกมแรกก่อน นั่นคือพ่ายต่อ โอเดนเซ่ ตอนปี 1994/95

– สถิติการยิงจุดโทษในถ้วยยุโรปของราชันอยู่ที่ ชนะ 2, แพ้ 2

– ส่วนยูเวนตุส นี่คือรอบก่อนรองในยูโรเปี้ยน คัพ หนที่ 18 ก่อนหน้านี้ชนะ 12, แพ้ 5

– สถิติเตะแบบสองนัดของยูเว่เมื่อเจอกับทีมจากสเปนคือ ชนะ 9, แพ้ 6 หนล่าสุดก็คือชนะบาร์ซ่ารอบนี้เมื่อซีซั่นก่อนสกอร์รวม 3-0

– สถิติของยูเว่เจอกับทีมจากสเปนในถ้วยยุโรปคือ 57 เกม ชนะ 19, เสมอ 15, แพ้ 23, ยิงได้ 62, เสีย 65 ลูก

– การแพ้นัดแรก 0-3 ถือว่ายับที่สุดของยูเว่ในบ้านเกมยุโรป เท่ากับตอนที่แพ้ 0-3 ต่อผีแดงเมื่อปี 2002/03 และ 1-4 ต่อเสือใต้ ในเกมนัดที่ 6 ของปี 2009/100

– สถิติของยูเว่ในการดวลจุดโทษคือ ชนะ 3, แพ้ 3

– เซร์คิโอ รามอส เกมนี้จะติดแบนหลังจากโดนจดชื่อที่ตูริน ส่วน มาเตโอ โควาซิช ต้องระวังใบเหลืองไม่เช่นนั้นจะติดแบนถ้าเข้ารอบ ส่วนฝั่งยูเว่ไม่มี เปาโล ดีบาล่า ที่ติดแบน เช่นกันกับ โรดริโก เบนตานคูร์ แต่ได้ มิราเล็ม ปานิช กับ เมห์ดี้ เบนาเตีย พ้นโทษ ส่วน จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กับ อเล็กซ์ ซานโดร ต้องระวังเหลืองไม่เช่นนั้นจะติดแบนถ้ายูเว่พลิกเข้าตัดเชือกได้

– เรอัล มาดริด ยิงอย่างน้อย 2 เม็ด ใน 18 จาก 22 เกมหลังแชมเปี้ยนส์ ลีก

– เรอัล มาดริด ชนะ 8 จาก 10 เกมหลังแชมเปี้ยนส์ ลีก

– มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกใน 6 เกมหลังของมาดริดในแชมเปี้ยนส์ ลีก

– ราชันมีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกใน 6 จาก 7 เกมหลังที่เจอกับยูเว่นับทุกรายการ

– มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกใน 3 เกมหลังสุดที่ยูเว่เตะในแชมเปี้ยนส์ ลีก


ที่มา : Siamsport


ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้


[top-banner9]