วูล์ฟส์ ใจกล้าท้าปืนรอเซ้ง “ซิลวา” จากมิลาน
“หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมดังตังหนาในศึกแชมเปี้ยนชิพ โชว์แผนการให้ความสนใจอยากได้ตัว อังเดร ซิลวา กองหน้าดีกรีทีมชาติโปรตุเกสของเอซี มิลาน เข้าร่วมทีม โดยหวังคว้าตัวแซงหน้า อาร์เซนอล ที่ก็กำลังให้ความสนใจอยู่เช่นกัน
ดาวยิงวัย 22 ปี ย้ายเข้าร่วมทีมเอซี มิลาน เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัวสูงถึง 34 ล้านปอนด์ แต่ผลงานกลับแตกต่างเมื่อนักเตะยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีข่าวลือความสนใจอยากทีมต่างๆเกิดขึ้นเมื่อมีความเป็นไปได้ที่นักเตะอาจต้องเก็บข้าวของย้ายทีมอีกครั้งถ้าหากยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเพิ่งจะยิงได้แค่ประตูเดียวในเซเรีย อา จากเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับทีมวูล์ฟส์หกล้าที่จะกระโดดร่วมวงให้ความสนใจนักเตะชื่อดังแข่งกับทีมใหญ่ๆเนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับทาง ฮอร์เก้ เมนเดส เอเยนต์นักเตะผู้ดูแลจัดการให้อังเดร ซิลวา ย้ายจากปอร์โต้เข้าร่วมทีมมิลาน
ทั้งนี้ ฟอร์มของ ซัลวา ก่อนจะย้ายไปมิลาน เขาถล่มประตูให้ปอร์โต้ไป 21 ประตูจาก 44 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
สรุปผล : ( เอฟเอ คัพ ) วีแกน แอธเลติก 0-2 เซาธ์แฮมป์ตัน 18 มีนาคม 2561
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561
วีแกน แอธเลติก (ลีก วัน) 0-2 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
Wigan Athletic (League One) 0-2 Southampton (Premier League)
สนาม : ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม
พอล คุ๊ก กุนซือเดอะ ลาติกส์ ทีมระดับลีก วัน พาทีมเข้ารอบด้วยการหักปากกาเซียนพลิกล็อกชนะแมนฯ ซิตี้ 1-0 ส่วนผลงานในลีกล่าสุดก็เพิ่งเฉือนแบร็ดฟอร์ด ซิตี้ ด้วยสกอร์เดียวกัน พร้อมทำสถิติไม่แพ้มา 5 เกมติดต่อกัน สำหรับการจัดทัพเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวโดยส่ง แกรี่ โรเบิร์ตส์ ลงแทน นิค พาวล์ ขณะที่ เดวานเต้ โคล, โดเนอร์วอน แดเนี่ยลส์ และ เจมส์ วอห์น ต่างติดคัพ-ไทรายการนี้
ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือป้ายแดงของนักบุญ ประเดิมคุมทัพนัดแรก ด้วยการปรับ 3 จุดจากเกมแพ้นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-3 โดยส่ง โซฟิยาน บูฟัล กับ มาโนโล่ กับเบียดินี่ สตาร์ตตัวจริงแทน เจมส์ วอร์ด-เพราส์ และ เนธาน เร้ดมอนด์
เริ่มการแข่งขันเจ้าถิ่นบุกใส่ทันที และทักทายด้วยจังหวะวอลเล่ย์ 20 หลาของ เกวิน แมสซี่ย์ แต่บอลเสียข้ามคานหวุดหวิด
ผ่าน 10 นาทีแรก เกมของเซาธ์แฮมป์ตันเริ่มดีขึ้น และมีโอกาสจากลูกยิงของ กีโด้ การ์รีโย่ ทว่าบอลตรงตัวของ คริสเตียน วอลตัน นายทวารวีแกน
นาที 20 เดอะ ลาติกส์ สร้างความหวาดเสียวจากลูกยิงของ โรเบิร์ตส์ แต่บอลเสยคานบนหวุดหวิด
จากนั้นเกมของ วีแกน ดูดีกว่า แต่ยังหาโอกาสเจาะตาข่ายนักบุญไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง นักบุญ มีจังหวะลุ้นจากความผิดพลาดของ ไบรน์ ที่จ่ายคืนไม่ดีมาเข้าทาง กับเบียดินี่ แต่ยิงติดเซฟของ นายทวาร วอลตัน
จนกระทั่งนาที 62 เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ทาดิช เตะมุมทางซ้ายเข้าหาเขตโทษ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก พุ่งเข้ายิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย
8 นาทีถัดมา นักบุญ มาได้จุดโทษ เมื่อ กับเบียดินี่ โดน แดน เบิร์น สกัดล้มในเขต แต่ หัวหอกอิตาเลียน ลุกขึ้นมาสังหารไปทางขวามือตัวเอง แต่ติดเซฟของ วอลตัน เลยยังนำอยู่แค่ 1 ลูกเหมือนเดิม
ช่วงเวลาที่เหลือ วีแกน พยายามบุกสู้สุดตัว แต่ไม่สามารถทวงสกอร์คืนได้และยังสังเวยประตูเพิ่มตอนทดเจ็บนาทีแรก จากจังหวะสวนกลับเร็วของนักบุญ เมื่อ เร้ดมอนด์ กระดกบอลต่อให้ เซดริก โซอาเรส วิ่งสอดจากขวามาซ้าย และแปผ่านมือ วอลตัน เสียบตาข่าย จบเกม เซาธ์แฮมป์ตัน บุกเชือดชัย 2-0 ประเดิมนัดแรกของ มาร์ค ฮิวจ์ส อย่างงดงาม และเป็นทีมลำดับ 3 ที่คว้าตั๋วเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
วีแกน แอธเลติก : คริสเตียน วอลตัน, เนธาน ไบรน์ (โนเอล ฮันท์ น.80), เชเยนเน่ ดังค์ลี่ย์, แดน เบิร์น, คัลลัม เอลเดอร์, แม็กซ์ พาวเออร์, เกวิน แมสซี่ย์ (นิค พาวล์ น.66), แซม มอร์ซี่, แกรี่ โรเบิร์ตส์ (ไรอัน โคลคลัฟ น.66), ไมเคิ่ล จาค็อบส์, วิลล์ กริ๊กก์
เซาธ์แฮมป์ตัน : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่, เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, เวสลี่ย์ ฮูดท์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, มาริโอ เลมิน่า, ดูซาน ทาดิช, โซฟิยาน บูฟัล (เนธาน เร้ดมอนด์ น.65), กีโด้ การ์รีโย่ (เชน ลอง น.81), มาโนโล่ กับเบียดินี่ (โอริโอล โรเมว น.87)
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ที่มา : [Siamsport]
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
“ซิลวา” ชอบใจซูเปอร์ซับดลชัยมิลาน 2 นัดติด
อันเดร ซิลวา กองหน้าฝอยทองสุดประทับใจหลังเปลี่ยนตัวลงมาพลิกเกมให้ เอซี มิลาน คว้าชัยชนะในกัลโช่ เซเรีย อา 2 นัดติดต่อกันรวมถึงเกมพลิกแซงเชือด คิเอโว่ สุดระทึก 3-2
ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสเพิ่งปลดล็อคพังประตูแรกในลีกได้สำเร็จเป็นคนซัดทดเจ็บในนัดบุกชนะ เจนัว 1-0 และเป็นครั้งแรกที่เขาซัลโวประตูชัยต่อหน้าแฟนบอลที่ซาน ซิโร่บนเวทีกัลโช่ เซเรีย อาช่วยเก็บ 3 คะแนนล้ำค่า
อย่างไรก็ตามหลังจบแมตช์ ซิลวา ยอมรับว่าเขาคงต้องฝึกฝนตัวเองและพัฒนาฝีเท้าอีกเยอะหวังเอาชนะใจโค้ช เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง
“ผมดีใจที่พังประตูแรกในเกมกับ เจนัวรวมถึงประทับใจกับประตูชัยในนัดนี้ด้วย “ อดีตหอกดาวรุ่งเอฟซี ปอร์โต้เปิดใจผ่านสถานีเครือข่ายโทรทัศน์ มีเดียเซต พรีเมี่ยม หลังจบแมตช์การแข่งขัน
“หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลยแต่ผมยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ ผมอายุยังน้อย ผมต้องทุ่มเทอย่างหนักให้มากยิ่งขึ้น ตอนนี้ผมแฮปปี้บประตูที่ทำได้แต่ผมต้องพัฒนาตัวเอง “
“เรากลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เราเล่นกันเป็นทีมและทุกคนทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้ได้ชัยชนะ แม้นัดนี้เราตามหลัง 1-2 เราไม่เคยถอดใจจนพลิกแซงชนะ”
ขณะเดียวกัน ซิลวา ยังถือโอกาสพูดถึงอนาคตตัวเองไม่เคยคิดย้ายออกจากซาน ซิโร่ แม้แต่นิดเดียวแม้เพิ่งตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล เมื่อช่วงเดือนมกราคม
“ผมอยู่ที่มิลานและผมก็เชื่อว่าผมไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว” หอกวัย 22 ปีย้ำชัด
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
สรุปผล : ( กัลโช่ เซเรีย อา ) ซามพ์โดเรีย 0-5 อินเตอร์ มิลาน 18 มีนาคม 2561
ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา
วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561
ซามพ์โดเรีย 0-5 อินเตอร์ มิลาน
Sampdoria 0-5 Inter Milan
สนาม : ลุยจิ แฟร์ราริส
ซามพ์โดเรีย ต้องปราศจาก คาโรล ลิเน็ตตี้ ที่ถูกพักแข้ง แต่ยังมี กัสตอน รามิเรซ ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ข้างหลังคู่หัวหอก ดูวาน ซาปาต้า กับ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ด้าน อินเตอร์ มิลาน มาเต็มสูบ อันโตนิโอ คันเดรว่า, ราฟินญ่า และ อีวาน เปริซิช ทำเกมรุกหลัง เมาโร อีการ์ดี้
ผ่านมาถึงนาทีที่ 26 ผู้มาเยือนได้ประตูก่อน จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ ครอสจากขวาเข้าเขตโทษให้ เปริซิช เทกตัวโหม่ง บอลลอยย้อยเสียบใต้คานเข้าไป ขึ้นนำ 1-0
4 นาทีต่อมา “งูใหญ่” ได้จุดโทษ หลัง ราฟินญ่า ไปถูก เอ็ดการ์ บาร์เรโต้ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และเป็น อีการ์ดี้ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด หนีห่าง 2-0
ลูกทีมของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ได้ใจแล้ว นาทีที่ 31 มาบวกเพิ่มได้อีกเม็ด เปริซิช ปาดเรียดจากเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้ากลาง อีการ์ดี้ เก็บได้ก่อนตกส้นเข้าไป นำโด่ง 3-0 พร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวด้วย
โดนแบบนี้ มาร์โก จามเปาโล อยู่เฉยไม่ได้ 3 ถัดมาแก้เกมด้วยการถอด บาร์ตอสซ์ เบเรสซีนสกี้ ออก ส่ง วาเลริโอ แวร์เร่ ลงเล่นแทน
“บลูแชร์คิอาตี้” มีลุ้นบ้าง นิโกล่า มูร์รู โยนจากซ้ายเข้ากลางให้ ซาปาต้า โขกชนเสาอย่างน่าเสียดาย
ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียวทีมเยือนมาได้อีก คันเดรว่า ปาดจากขวาเข้าเขตโทษให้ ราฟินญ่า ตอกส้นติดเซฟ เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ ทว่ายังมี อีการ์ดี้ ปรี่ซ้ำไม่เหลือ ทำแฮตทริกได้สำเร็จ จบ 45 นาทีแรก อินเตอร์ ออกนำก่อนสบาย 4-0
เปิดฉากครึ่งหลังแค่ 6 นาที สกอร์ไหลเป็น 5-0 แล้ว บาร์เรโต้ เตะสกัดไม่ดีไปเข้าทาง อีการ์ดี้ วอลเลย์ด้วยขวาทันที บอลกระดอนพื้นข้ามตัว วิเวียโน่ เข้าไปกองก้นตาข่ายอีก
พลพรรค “เนรัซซูร์รี่” ยังไม่เพลาเกม นาทีที่ 76 เอแดร์ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ไหลออกขวา เปริซิช ปาดกลับเข้ากลางถวายพานให้ คันเดรว่า เลือกที่จะล็อกก่อนยิงไปติดบล็อกอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีจังหวะอันตรายอะไรเพิ่มแล้ว จบเกม อินเตอร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการบุกถล่ม ซามพ์โดเรีย 5-0 คว้า 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ซามพ์โดเรีย : เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ – บาร์ตอสซ์ เบเรสซีนสกี้ (วาเลริโอ แวร์เร่ น.34), มาติอัส ซิลเวสเตร, จาน มาร์โก แฟร์รารี่, นิโกล่า มูร์รู – เอ็ดการ์ บาร์เรโต้ (วาสโก เรจินี่ น.55), ลูกัส ตอร์เรยร่า, เดนนิส ปราต – กัสตอน รามิเรซ (จานลูก้า คาปรารี่ น.55) – ดูวาน ซาปาต้า, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า
อินเตอร์ มิลาน : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช – ชูเอา กานเซโล่, มิลาน สคริเนียร์, ชูเอา มิรันด้า, ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ – มาร์เซโล่ โบรโซวิช, โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ – อันโตนิโอ คันเดรว่า (มาติอัส เวซิโน่ น.79), ราฟินญ่า (บอร์ฆา บาเลโร่ น.80), อีวาน เปริซิช – เมาโร อีการ์ดี้ (เอแดร์ น.66)
ที่มา : [Siamsport]
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
“อัลบิโอล” กำชับนาโปลีนัดที่เหลือชนะรวดแซงยูเว่คว้าแชมป์
ราอูล อัลบิโอล เซนเตอร์ฮาล์ฟฮีโร่ทีมนาโปลียอมรับรู้สึกหายใจโล่งอกไปทีหลังรับบทพระเอกโขกประตูชัยเฉือน เจนัว แบบหืดจับ 1-0 พร้อมลดช่องว่างระหว่างคะแนนตามหลังจ่าฝูง ยูเวนตุส เหลือ 2 แต้ม
หลังทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่สะดุดสองนัดติดแต่จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ปราการหลังทีมชาติสเปนเชื่อมั่นว่าขุนพลอัซซูร่าเรียกขวัญและกำลังใจกลับคืนมา แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือพยายามรักษาฟอร์มคงเส้นคงวาไปจนจบฤดูกาล
“ยิ่งเหลืออีกไม่กี่นัดจะยิ่งเจอความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนผมแฮปปี้ในชัยชนะและที่สำคัญก็คือเราต้องพยายามรักษามันไว้ไปจนจบฤดูกาล” อดีตปราการหลังทีมเรอัล มาดริดยืนกรานผ่านสำนักข่าว มีเดียเซต พรีเมี่ยม
“แน่นอนผมดีใจที่พังประตูชัยให้ทีมได้สำเร็จและเหนือสื่งอื่นใดก็คือการได้มาซึ่งชัยชนะที่่ต้องการท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของเรา ชัยชนะช่วยเรียกความมั่นใจ”
ทั้งนี้ อัลบิโอล เชื่อว่าเกมที่จะตัดสินใครคือแชมป์สคูเด็ตโต้น่าจะเป็นนัดที่ไปเยือน ยูเวนตุส ที่สนามอัลลิอันซ์ สเตเดี้ยมเดือนเมษายน
“เราต้องพยายามชนะไปเรื่อยๆและรักษาความหวังลุ้นแชมป์ เรารู้ดีว่า ยูเว่ แข็งแกร่งแค่ไหน มันเป็นงานเข็นครกขึ้นภูเขาสำหรับการแย่งแชมป์มาจากพวกเขา”
“จากนี้ไปเหลือเกมการแข่งขันอีกเพียง 9 นัดสุดท้าย หากเราต้องการคว้าแชมป์ล่ะก็ เราต้องชนะรวดทั้งหมด”
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
ประสบการณ์ตรง! โค้ชแตนบอก “ซาลาห์” โหดเหมือน “เมสซี่”
ฆาบี้ กราเซีย นายใหญ่วัตฟอร์ต ยอมรับว่าปีกลิเวอร์พูลอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะที่ยากจะรับมือเหมือนกัลลิโอเนล เมสซี่ สตาร์บาร์เซโลน่า
กราเซียนำลูกทีม“แตนอาละวาด”บุกพ่ายลิเวอร์พูล 5-0 ศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ในจำนวนนั้นเป็นการยิง 4 และ จ่าย 1 ของซาลาห์
นั่นทำให้เขานึกถึง 4 ปีก่อนที่เคยคุมโอซาซูน่าบุกไปแพ้ทีม“ต่างดาว” 7-0 ที่เมสซี่ยิง 3 จ่าย 1
กุนซือชาวสเปนกล่าวว่าผู้เล่นทั้งสองคนเป็นคนที่สามารถพลิกเกมด้วยตัวเองได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคู่แข่งจะวางแผนมาดีอย่างไรก็ตาม
“หลายครั้งที่มันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะวางแผนมาอย่างไน ไม่เกี่ยวเลยว่าคุณทำงานกับมันมาหนักแค่ไหน เพราะผู้เล่นแบบนั้นสามารถเปลี่ยนมันได้ทันที” กราเซียบอกกับมิร์เรอร์
“ผมจำมันได้(เกม 7-0) คุณไม่ต้องมาย้ำผมหรอก แต่ผมก็จำได้นะว่าผมไปที่นั่นในฤดูกาลถัดมาและชนะมาได้(พามาลาก้าบุกชนะ 1-0”
“ทั้งคู่เป็นผู้เล่นที่น่าทึ่ง ยากจะรับมือ พูดตามตรงคือทั้งคู่นั้นวิเศษมาก และตอนนี้ซาลาห์ก็อยู่ในช่วงที่ดี เป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในยุโรป”
“มันเป็นเรื่องยากมากที่จะต่อกรกับพวกเขา เพราะทั้งคู่สามารถยิงได้ทุกเวลา นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน พวกเขามีความสามารถหลากหลาย สามารถทำได้ในช่วงเวลาที่ต้องการ”
“คุณสามารถเล่นเกมรับได้อย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่แค่ครั้งเดียวคุณก็โดนแล้ว”
“คุณมีแผนจะมาหยุดพวกเขาและคุณต้องลองทำมัน ซึ่งเราก็ทำนะที่มาลาก้า(เจอเมสซี่) แต่ผู้เล่นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในเกม ผู้เล่นอย่างเมสซี่และซาลาห์ พวกเขาเป็นคนตัดสินใจในสนาม และเป็นตัวตัดสินเกม นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับซาลาห์(ในเกมล่าสุด)”
“มันเป็นเรื่องยากของเราที่จะหยุดความสามารถเฉพาะตัวของซาลาห์ เหมือนกับยากที่ยากหยุดทีมอย่างลิเวอร์พูล บางครั้งคุณก็ทำอะไรกับมันไม่ได้”
“แต่ไม่ใช่แค่ซาลาห์หรอก ทีมลิเวอร์พูลนั้นเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในยุโรปตอนนี้ พวกเขามีเกมเพรสซิ่งระดับสูง สูงยิ่งกว่าบาร์เซโลน่าอีก แต่ทั้งสองทีมในตอนนี้เป็นที่สุดของยุโรป” เขากล่าว
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
แฟนบอลร้องเอฟเอไม่แฟร์หาก “ไก่เดือยทอย” ได้ตัดเชือกเอฟเอ คัพในบ้าน
ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามอง โดยบรรดาแฟนบอลร่วมแสดงความคิดเห็นในโซเชียล มีเดีย ชี้ว่าเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมหากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ได้ลงแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศในสนามเวมบลีย์
“ไก่เดือยทอง” ผ่านเข้ารอบตัดเชือกหลังคว้าชัยชนะเหนือสวอนซี ซิตี้แบบสบายเท้า 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส ใช้เวมบลีย์เป็นรังเหย้า ขณะที่กำลังรอการก่อสร้างสนามใหม่ให้เสร็จสิ้น
ก่อนมีการบังคับใช้เป็นสังเวียนแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ สมาคมฟุตบอลได้ใช้สนามกลางทั้งโอลด์ แทรฟฟอร์ด และ วิลล่า ปาร์คสำหรับจัดการแข่งขัน ซึ่งหากแมนฯ ยูไนเต็ดผ่านมาถึงรอบสี่ทีมสุดท้าย พวกเขาก็จะไม่ได้เล่นในบ้านตัวเอง
ด้วยเหตุผลนี้ แฟนบอลต้องการให้สมาคมฟุตบอลบังคับใช้เรื่องดังกล่าวกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เพราะอาจทำให้ไก่เดือยทองได้เปรียบคู่แข่งไม่ว่าจะเจอกับทีมไหนในรอบต่อไป
“เอฟเอควรจัดการว่ารอบรองชนะเลิศที่ท็อตแน่มมีส่วนรวม ควรจัดในสนามที่ไม่ใช่เวมบลีย์ ฟุตบอลเอฟเอ คัพปี 2018 อาจเป็นมีทีมที่ได้แชมป์โดยกุมความได้เปรียบในการเล่นในบ้าน” @BestiesBoots7
“@FA สเปอร์สจะได้เตะในบ้านไหมกับรอบรองชนะเลิศหรือว่าใช้สนามกลาง โปรดอย่าทำให้เอฟเอ คัพเสื่อมคุณค่าโดยปล่อยให้พวกเขาได้เล่นที่เวมบลีย์” @GazMan16
“@fa รอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ มีสองทีมที่ได้เล่นในสนามกลาง และมีอีกหนึ่งทีมจะต้องบุกไปเยือนสเปอร์ส” @johnny_fingers5
“สวัสดี @FA ผมทวีตหาด้วยความกังวลใจในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง มันไม่แฟร์ที่จะมีทีมกุมความได้เปรียบด้วยการเล่นในบ้านกับรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ผมขอแนะนำให้สเปอร์สเล่นรอบตัดเชือกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือ มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม” @shivamLM
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
” แฟร์ทองเก้น” ยิ้มไก่เข้ารอบรองฯเอฟเอได้เล่นเวมบลีย์สังเวียนถนัด
แยน แฟร์ทองเก้น ปราการหลังท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มองว่าพวกเขากุมความได้เปรียบในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ เหตุเพราะสังเวียนแห่งนี้คือรังเหย้าของ “ไก่เดือยทอง” ในฤดูกาลนี้
สเปอร์สทะลุเข้ารอบตัดเชือกรายการแข่งขันฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดของโลกได้สำเร็จ โดยบุกไปถล่มสวอนซี ซิตี้ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศจะเตะที่สนามเวมบลีย์ โดยซีซั่นนี้ถือเป็นบ้านชั่วคราวของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
“แน่นอนว่ามันช่วยพวกเราเพราะเราเล่นกันได้ดีที่สนามแห่งนั้น”
“เราเคยเอาชนะทีมใหญ่ ๆ และมีเกมที่ดีมาก ๆ นอกเหนือจากช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลที่อาจจะลำบากนิดหน่อย”
“เกมกับยูเวนตุสไม่สู้ดีนัก แต่เวมบลีย์เหมาะสมกับเรา เรามีฤดูกาลที่ดีในสนามแห่งนี้ เรารู้สึกเหมือนได้เล่นในบ้านจริง ๆ”
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
เรือ VS หงส์ : นี่อาจเป็นอีกหนึ่งคลาสซิคเกมของแชมเปี้ยนส์ ลีก
การจับฉลากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ผลลัพท์ที่ชัดเจนหนึ่งอย่าง นั่นก็คือจะมีทีมจากอังกฤษผ่านเข้ารอบตัดเชือกแน่นอนหลัง“เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องมาเจอกับ“หงส์แดง”ลิเวอร์พูล
ทั้งคู่คือตัวแทนจากพรีเมียร์ ลีกที่เหลือรอดในรายการนี้ พวกเขาต่างเป็นทีมที่เล่นเกมรุกและในการพบกันภายในประเทศก็ยิงกันถล่มทลายถึง 12 ประตูจาก 180 นาที
การจับฉลากมาเจอกันในแชมเปี้ยนส์ ลีกทำให้พวกเขามีโอกาสได้แข่งขันกันอีกครั้งและสำหรับแฟนบอลทั่วไปแล้ว นี่คือเกมที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย
การคุมทีมเชลซีสมัยแรกของโจเซ่ มูรินโญ่ได้สร้างช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและมักพบกับลิเวอร์พูลบ่อยครั้งในฟุตบอลยุโรปจนกลายเป็นที่จับจ้องของแฟนบอล
เกมมีครบทุกรสชาติทั้งดราม่า,การทำประตูและความขัดแย้ง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเรื่องราวระหว่างทั้ง 2 ทีมที่ต่างไม่ชื่นชอบซึ่งกันและกันและทำให้เกมเร้าใจมากยิ่งขึ้นไปอีก มันกลายมาเป็นเกมฉบับย่อของการพบกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและอาร์เซน่อลในช่วงต้นทศวรรษนี้
ทว่าสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกันในปี 2018 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูห่างจากลิเวอร์พูลทั้งในเชิงของคะแนนบนตารางและความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะแต่เยอร์เก้น คล็อปป์มีสไตล์การเล่นเกมรุกที่จะกดดันแนวรับของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าได้อย่างมีนัยสำคัญ
มันไม่ได้เป็นเช่นนี้ในตอนที่พวกเขายังคุมทีมในเยอรมัน อย่างไรก็ตามมันรู้สึกได้เลยว่าแนวรับของซิตี้ไม่ได้แข็งแกร่งไร้ที่ติแม้ว่าจะพัฒนาขึ้นมากจากฤดูกาล 2016/17 ก็ตาม
การผ่านเข้ารอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีกจะถือเป็นความสำเร็จของทั้ง 2 สโมสรแม้ว่าซิตี้จะหวังไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ
แน่นอนว่าลิเวอร์พูลไม่ได้คาดว่าจะมาไกลขนาดนี้แต่หลังจากเป็นทีมเดียวในลีกที่เอาชนะทีมจ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีกได้ในฤดูกาลนี้ พวกเขาคงมีความมั่นใจก่อนเกมนัดแรกที่แอนฟิลด์ในวันที่ 4 เมษายน
สำหรับบรรดาทีมอื่นที่ยังเหลือรอดในแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็คงไม่ผิดหวังที่เห็น 2 ทีมจากอังกฤษต้องมาเจอกันเอง แน่นอนว่าจะมีทีมหนึ่งตกรอบและคงไม่มีใครอยากมาเจอแนวรุกของลิเวอร์พูล
ความปราชัยต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดส่งผลกระทบต่อความหวังการจบเป็นรองแชมป์ของลิเวอร์พูล ประกอบกับซิตี้ที่น่าจะคว้าแชมป์ลีกแบบนอนมาทำให้โค้ชของทั้ง 2 ทีมอาจพักนักเตะในลีกเพื่อลุยฟุตบอลยุโรปทั้ง 2 เกม
ลิเวอร์พูลจะเจอกับเอฟเวอร์ตันคั่นกลางเกมยุโรป ขณะที่ซิตี้ต้องต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เอติฮัด สเตเดี้ยมซึ่งเป็นเกมที่พวกเขาอาจชูถ้วยแชมป์ได้สมใจ
ในทางตรงกันข้าม โมเมนตัมจากเกมลีกอาจมีส่วนช่วยในเกมยุโรปได้ ทั้ง 2 ทีมกำลังเล่นได้ดีและมาพบกันในฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดทำให้มันน่าสนใจอย่างมาก
ทีมจากอังกฤษมักมีปัญหาในฟุตบอลยุโรปตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาแม้ว่าฤดูกาลนี้จะดูดีมากจนกระทั่งท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์,เชลซีและแมนเชสเตอร์ต่างตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ท็อตแน่มโชคร้ายแต่พวกเขาจะได้ประสบการณ์จากความผิดหวังนั้น ส่วนเชลซีก็เจอลิโอเนล เมสซี่แผลงฤทธิ์และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เพลี้ยงพล้ำต่อเซบีญ่า
เช่นเดียวกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราก็คงคาดหวังว่าทั้ง 3 ทีมจะกลับมาในฤดูกาลหน้าและไปได้ไกลกว่าเดิมสำหรับการแข่งขันรายการนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลมีศักยภาพที่จะแสดงให้เห็นถึงความน่าดูชมของพรีเมียร์ ลีก การเล่นเกมรุกแบบดุดันของทั้ง 2 ทีมไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเห็นได้บ่อยในแชมเปี้ยนส์ ลีกที่เต็มไปด้วยแท็คติค
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการพบกันของ 2 ทีมจากชาติเดียวกันถึงน่าตื่นเต้น ความแตกต่างเรื่องแท็คติคสำหรับฟุตบอลยุโรปไม่ต้องพูดถึง ความเป็นกังวลเรื่องประตูทีมเยือนอาจไม่ได้มีบทบาทเพราะทั้ง 2 ทีมจะรู้สึกว่าเหมือนเล่นเกมภายในประเทศ
นั่นอาจเป็นแนวทางที่ง่ายสำหรับการมองสิ่งต่างๆแต่การพบกันของพวกเขาดูเหมือนเกมพรีเมียร์ ลีกมากกว่าการเจอกันในฟุตบอลยุโรป
ที่มา : Soccersuck
ทีเด็ดบอล / วิเคราะห์บอล / เซียนล้มโต๊ะ/ วิเคราะห์บอลวันนี้
Preview : ( เอฟเอคัพ อังกฤษ ) เลสเตอร์ – เชลซี 18 มีนาคม 2561
ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ (รอบก่อนรองชนะเลิศ)
วันอาทิตย์ 18 มีนาคม 2561
เลสเตอร์ – เชลซี
Leicester – Chelsea
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 , เวลา : 23.30 น.
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
โคล้ด ปูแอล กุนซือเลสเตอร์ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเบียดชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 ก่อนถล่มเวสต์บรอมวิช 4-1 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 4 เกมแล้ว
สภาพทีมเกมนี้ ปูแอลยังไม่มี แดเนียล อามาร์ตีย์ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเหมือนเดิม ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ พร้อมช่วยทีมทั้งหมด
อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์เชลซี พาทีมเข้ารอบนี้ หลังถล่มฮัลล์ ซิตี้ 4-0 ก่อนแพ้ บาร์เซโลน่า 0-3 ในเกมยุโรปล่าสุด เป็นการแพ้นัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม
สภาพทีมเกมนี้ คอนเต้ยังไม่มี ดาวิด ลุยซ์ (เข่า) และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังชวดเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีผลอะไร เพราะเป็นแค่สำรองอยู่แล้ว
นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่ม แต่อาจมีการปรับทัพพอสมควร เพื่อเปิดโอกาสให้พวกแข้งสำรองบางรายได้ลงโชว์ฝีเท้าบ้างเหมือนในรอบที่ผ่านมา
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ (4-4-1-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดนนี่ ซิมพ์สัน, เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลล์เวลล์ – เดมาไร เกรย์, บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ริยาด
มาห์เรซ – ชินจิ โอกาซากิ – เจมี่ วาร์ดี้
ผู้จัดการทีม : โคล้ด ปูแอล
เชลซี (3-4-2-1) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, แกรี่ เคฮิลล์ – ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, เชส ฟาเบรกาส, เอเมอร์สัน
พัลมิเอรี่ – วิลเลี่ยน, เปโดร โรดริเกซ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน
เกร็ดก่อนเกม
– 3 ครั้งหลังสุดที่เจอกันในเอฟเอ คัพ เชลซีเอาชนะเลสเตอร์ได้หมด และเดินหน้าต่อจนคว้าแชมป์ได้สำเร็จ (1997, 2000 และ 2012)
– มีประตูรวม 2.5 ประตูขึ้นใน 9 นัดหลังสุดที่เลสเตอร์เล่นในบ้านพบเชลซี
– เลสเตอร์ ในเอฟเอ คัพ 3 นัดติดต่อกัน
– มีประตูรวมต่ำกว่า 2.5 ประตูใน 5 จาก 6 นัดหลังสุดของเลสเตอร์ในเอฟเอ คัพ
– เชลซียิงได้อย่างน้อย 2 ประตูใน 6 จาก 7 นัดหลังสุดที่มาเยือนเลสเตอร์จากทุกรายการ
– เลสเตอร์ไม่แพ้ใครในบ้านนับตั้งแต่ขึ้นปี 2018 เป็นต้นมา
– เชลซีไม่แพ้เลสเตอร์ ซิตี้ ใน 6 นัดหลังสุดจากทุกรายการ
ที่มา : [Siamsport]