สนาม : เฟรนด์ส อารีน่า, (โซลน่า, สวีเดน)
“ขุนพลไวกิ้ง” ทีมชาติสวีเดน ภายใต้การคุมทัพของยานเน่ อันเดอร์สสัน พาทีมเบียดชนะเดนมาร์ก 1-0 ในเกมลับแข้งล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 4 เกมแล้ว แต่เป็นเกมที่ไม่ได้รับรองจากฟีฟ่า ซึ่งเกมนั้นเน้นเปิดโอกาสให้พวกแข้งชุดสองที่ค้าแข้งในประเทศ
เกมนี้ สวีเดน วาง วิคเตอร์ ลินเดอลอฟ ลงยืนเป็นปราการหลังคู่กับ อันเดรียส กรานควิสต์ (กัปตันทีม) โดยมี โอล่า ตอยโวเน่น ล่าตาข่ายกับ มาร์คุส เบิร์ก
ทางด้าน เรนัลโด้ รวยด้า เทรนเนอร์ชาวโคลอมเบียคนใหม่ของทีมชาติชิลี ซึ่งเข้ามารับงานต่อจากฆวน อันโตนิโอ ปิซซี่ กุนซือชาวสเปนที่ออกจากตำแหน่งไป หลังพาทีมแพ้บราซิล 0-3 ในเกมส่งท้ายคัดบอลโลก ทำให้อดไปเล่นเวิลด์ คัพ ที่รัสเซีย
ในทีมชุดนี้ไม่มี เคลาดิโอ บราโว่, กอนซาโล่ ฮาร่า, ฟรานซิสโก้ ซิลวา และ เมาริซิโอ ปินีย่า แต่ยังมีดาวดังอย่าง อาร์ตูโร่ วิดาล ปั้นเกมแดนกลางสนับสนุนสามประสานแดนหน้าทั้ง อันเจโล่ ซากาล, เอดูอาร์โด้ วาร์กาส และ อเล็กซิส ซานเชซ ล่าตาข่าย
ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที ชิลี ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ อาร์ตูโร่ วิดาล จ่ายให้กับ เอดูอาร์โด้ วาร์กาส ซัดด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลหลุดเสาแรกไป
สองนาทีต่อมา สวีเดน ตอบโต้กลับมาบ้าง เซบาสเตียน ลาร์สสัน โยนฟรีคิกให้กับ โอล่า ตอยโวเน่น สะบัดโขกในกรอบเขตโทษบอลหลุดกรอบไป
ผ่านมา 22 นาที ชิลี เป็นฝ่ายชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ อาร์ตูโร่ วิดาล มิดฟิลด์ตัวเก่งตะบันด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายบนเข้าไปอย่างสุดงาม และเป็นประตูที่ 24 ของวิดาล ในการรับใช้ชิลี นัดที่ 99
ทว่านาทีต่อมา สวีเดน ตามตีเสมอ 1-1 ได้อย่างรวดเร็ว จากการต่อบอลกันอย่างสวยงาม วิคเตอร์ เคลสสัน จ่ายจากกราบซ้ายเข้าในให้ มาร์คุส เบิร์ก จับบอลลั่น แต่มาเข้าทางของ โอล่า ตอยโวเน่น ที่เติมขึ้นมาพอดี จัดการซัดด้วยขวาเต็มเท้ากลางกรอบเขตโทษ บอลเข้ากลางประตูไป และเป็นประตูที่ 13 ของตอยโวเน่น ในนามทีมชาติแล้ว
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 25 ชิลี เกือบได้ประตู เมื่อ เมาริซิโอ อิสล่า เปิดจากกราบขวาเข้าในไปถึง อเล็กซิส ซานเชซ จิ้มบอลจ่อๆเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ โดยเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
สวีเดน ได้ฟรีคิกในนาทีที่ 36 เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ปีกซ้ายรับหน้าที่ปั่นด้วยขวาบอลไม่เข้ากรอบ หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 1-1
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียว ชิลี ทักทายก่อนเลย จากจังหวะที่ อาร์ตูโร่ วิดาล โหม่งชงให้กับ อันเจโล่ ซากาล ซัดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษไม่ผ่านมือของ คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท นายทวารของสวีเดน ที่ปัดบอลออกหลังไปได้ทัน
กระเถิบมานาทีที่ 55 เจ้าถิ่นได้โอกาสบ้าง เซบาสเตียน ลาร์สสัน ปั่นฟรีคิกด้วยขวาบอลข้ามคานไป
สามนาทีให้หลัง ชิลี ได้โอกาส อเล็กซิส ซานเชซ เปิดต่อให้กับ ฌอน โบเซชูร์ สับด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท นายทวารของสวีเดน สามารถปัดบอลออกหลังไปได้ทัน
สวีเดน มีลุ้นบ้างในนาทีที่ 66 มาร์คุส เบิร์ก โขกชงให้ โอล่า ตอยโวเน่น สับด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาขวาไป
ล่วงเลยมานาทีที่ 73 ชิลี ได้ลูกเตะมุม ชาร์ลส์ อรานกิซ โยนให้กับ ดีเอโก้ บัลเดส โขกหลุดเสาขวาไป
เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ ชิลี มาได้ประตูชัยในช่วงนาทีสุดท้าย จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ นอร์ดเฟลด์ท ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง โบลาโดส ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือให้ ชิลี บุกมาเฉือนเอาชนะ สวีเดน แบบสนุก 2-1
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สวีเดน : คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท – มิคาเอล ลุสติก, วิคเตอร์ ลินเดอลอฟ, อันเดรียส กรานควิสต์ (กัปตันทีม), มาร์ติน โอลส์สัน – วิคเตอร์ เคลสสัน, กุสตาฟ สเวนส์สัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก – มาร์คุส เบิร์ก, โอล่า ตอยโวเน่น
ชิลี : จอห์นนี่ เอร์เรร่า – เมาริซิโอ อิสล่า, เอ็นโซ โรโค, กีเย่ร์โม่ มารีปาน, ฌอน โบเซฌูร์ – ปาโบล เอร์นานเดซ (ดีเอโก้ บัลเดส น.61), ชาร์ลส์ อรานกิซ, อาร์ตูโร่ วิดาล – อันเจโล่ ซากาล (มาร์กอส โบลาโดส น.71), เอดูอาร์โด้ วาร์กาส (นิโกลาส กาสตีโญ่ น.61), อเล็กซิส ซานเชซ (กัปตันทีม)
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์ (อังกฤษ)